ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนได้มีการตั้งข้อสังเกตการปรับลดราคาน้ำมันดีเซล จากลิตรละ 31.94 บาท เหลือลิตรละ 29.94 บาท หรือลดลงลิตรละ 2 บาท ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. ทั้งที่กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 2.50 บาท ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.-31 ธ.คคำพูดจาก ทดลองปั่นสล็อต. 66 จึงเกิดคำถามว่า ทำไมราคาน้ำมันดีเซล ไม่ปรับลดลงลิตรละ 2.50 บาท หรือเหลือลิตรละ 29.44 บาท ตามที่อัตราภาษีลดลง หรือหายไป 50 สต. มองว่า เป็นการฉวยโอกาสเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือเป็นการให้ประโยชน์ผู้ค้าน้ำมันเกินความจำเป็นหรือไม่ ทั้งที่การปรับลดภาษีฯ ส่งผลต่อการจัดหารายได้เข้าประเทศ เพราะฉะนั้นจึงควรต้องมาช่วยเหลือประชาชนที่ยังเดือดร้อนจากค่าครองชีพสูงคำพูดจาก ฟรี เกมสล็อตทดลองเล่น
รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การปรับลดราคาน้ำมันลิตรละ 2 บาท ถือเป็นอัตราที่เหมาะสมแล้ว เนื่องจากอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซล ผสมอยู่ 7% ตามประกาศภาษีฯ ใหม่ เก็บลิตรละ 3.67 บาท จากเดิมเก็บภาษีลิตรละ 5.99 บาท หักลบแล้วลดจริงอยู่ที่ลิตรละ 2.32 บาท ไม่ใช่ลิตรละ 2.50 บาท จึงนำไปลดราคาขายปลีกดีเซลให้กับประชาชนลิตรละ 2 บาท ที่เหลือลิตรละ 0.32 บาท ต้องนำไปบริหารจัดการที่เสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะราคาน้ำมันดีเซลในตลาดโลกล่าสุดปรับขึ้นไปถึง 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงกว่ากรอบที่คาดการณ์อยู่ที่ 110-115 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
“แม้ ครม. จะประกาศลดภาษีสรรพสามิตดีเซลลิตรละ 2.50 บาท แต่เมื่อหักลบจริงๆ แล้วเหลือเพียงลิตรละ 2.32 บาท ที่เหลือต้องนำมาบริหารจัดการ เพราะราคาน้ำมันตลาดโลกสูงมาก ตอนนี้กองทุนฯ ต้องอุดหนุนราคาน้ำมันดีเวลถึงลิตรละ 7.17 บาท เงินไหลออกเดือนละ 11,000-12,000 ล้านบาท โดยฐานะกองทุนน้ำมัน ณ วันที่ 17 ก.ย. 66 ติดลบอยู่ที่ 61,641 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 16,902 ล้านบาท และบัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือแอลพีจี ติดลบ 44,739 ล้านบาท เพราะฉะนั้นการปรับลดลงลิตรละ 2 บาท จึงเหมาะสมแล้ว”